วันจันทร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2555

ความรู้เรื่องการป้องกันและปราบปรามการทุจริต

สรุปสาระสำคัญ
ข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
คุณธรรมและจริยธรรมของนักการเมือง

 ผลสำรวจดรรชนีชี้วัดภาพลักษณ์การทุจริตคอร์รัปชั่นของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก โดยองค์การเพื่อความ
   โปร่งใสนานาชาติ(Transparency International : TI) ล่าสุดประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ ๘๔
   (คะแนนเต็ม ๑๐ ประเทศไทยได้คะแนน ๓.๔๐) เท่ากับว่าอันดับความโปร่งใสของประเทศไทยในมุมมอง
   ของต่างประเทศลดลงหรือแย่ลงกว่าเดิม
  มีรายงานออกมาว่าประเทศไทยมีการทุจริตคอร์รัปชั่นในด้านเมือง(Political Corruption) เป็นส่วนใหญ่
   กล่าวคือมีการใช้อำนาจของนักการเมืองเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ให้กับตนเองหรือพวกพ้องโดยไม่คำนึงถึง
   ผลประโยชน์สาธารณะ ซึ่งส่งผลรวมถึงด้านอื่น ๆ ไปด้วย
  จากการศึกษารูปแบบการทุจริตคอร์รัปชั่นตามทัศนะของประชาชน โดยสำรวจความคิดเห็นของประชาชน
   จากเครือข่ายประชาชน ๗,๖๐๐ คน จากทุกจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งจัดโดยสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคม
   แห่งชาติ  ร่วมกับสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ระหว่างวันที่ ๑ – ๓๑ พฤษภาคม
   ๒๕๔๗ ได้ข้อสรุปว่าการทุจริตที่ประชาชนพบเห็นมากที่สุดมี ๕ รูปแบบที่สำคัญเรียงตามลำดับคือ
   ๑. การรับสินบนและการรับของขวัญ ๒. การวิ่งเต้นขอตำแหน่งในวงราชการ ๓. การรับส่วย รีดไถ
   ๔. การคอร์รัปชั่นเชิงนโยบาย และ ๕. การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ
  เมื่อปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นของประเทศไทยเกิดมาจากปัจจัยพื้นฐานดังกล่าวและส่งผลกระทบในทางลบ
   ต่อความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ความสามารถในการแข่งขันทางการค้า การลดทอนรายได้ของประเทศ
   ตลอดจนการจัดสรรทรัพยากรของประเทศ ด้วยเหตุผลนี้รัฐธรรมนูญจึงได้มีบทบัญญัติในเรื่องจริยธรรมของ
   ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยให้มีประมวลจริยธรรมเป็นตัวกำหนดมาตรฐานทาง
   จริยธรรม รวมทั้งการกระทำอันมีลักษณะเป็นการต้องห้ามในเรื่องของการถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท
   ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง การถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์
   หรือโทรคมนาคมและการเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทหรือบริษัทที่รับสัมปทาน
   หรือเข้าเป็นคู่สัญญาอันมีลักษณะเป็นการผูกขาดตัดตอน ซึ่งเป็นสาระสำคัญและแสดงให้เห็นถึงเจตจำนง
   ที่จะทำให้มีการปรับปรุงระบบการเมืองและเป็นมาตรการควบคุมมิให้นักการเมืองใช้อำนาจหน้าที่เป็นไป
   ในทางทุจริตและไม่เกิดประโยชน์สุขต่อสังคมโดยรวม
  กรณีประเทศอังกฤษ ในเดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๗ หนังสือพิมพ์เดอะการ์ดเดียน รายงานว่า สมาชิกรัฐสภา
   ๒ คน ตกลงยิมยอมที่จะตั้งคำถามในรัฐสภาโดยได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินสด ส.ส. ทั้งสองรายนี้ยอมใช้
   ตำแหน่งที่ได้รับเลือกตั้งขึ้นมาหาประโยชน์ส่วนตน โดยรับสินบนให้ตั้งคำถามที่มีต่อรัฐสภาเพื่อช่วยผลักดัน
   ส่งเสริมให้ได้ประโยชน์กับผู้ให้สินบน ส.ส. ทั้งสองได้กระทำไปโดยมิได้ตระหนักว่าพวกเขาถูกนักหนังสือพิมพ์
   หลอกให้ทำเพื่อเป็นการตรวจสอบความซื่อตรง
  กฎหมายของอังกฤษมิได้กำหนดว่าการรับสินบนของ ส.ส. ผิดต่อกฎหมาย แต่เพื่อปกป้องเกียรติภูมิรัฐสภา
   นายกรัฐมนตรีของอังกฤษได้ตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาเพื่อตรวจสอบมาตรฐานของการประพฤติปฏิบัติ
   หรือจรรยาบรรณของผู้ดำรงตำแหน่งทางสาธารณะทุกประเภท (Public Office) เพื่อสร้างมาตรฐานชั้นสูง
   ของการดำเนินชีวิตให้แก่สาธารณะ ต่อมาคณะกรรมาธิการดังกล่าวได้ระบุหลักคุณธรรม ๗ ประการ
   สำหรับการดำรงชีวิตในสังคมของบุคคลสาธารณะ ซึ่งเป็นหลักการที่อ้างว่าได้สะท้อนถึงพฤติกรรม
   ที่สาธารณชนต้องปฏิบัติ และเป็นหลักจริยธรรม ๗ ประการที่สังคมต้องการจากบุคลากรต่างๆ
   ในหน่วยราชการและที่มีตำแหน่งเป็นบุคคลสาธารณะ ดังนี้
   ๑. ความไม่เห็นแก่ตัว (Selflessness) คือ มุ่งการตัดสินใจเพื่อประโยชน์ของสังคมส่วนรวม
       ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ส่วนตัว ครอบครัว หรือเพื่อรอบข้าง
   ๒. ความซื่อตรง มั่นคง (Intergrity) คือ การไม่ยอมรับพันธะหรือข้อผูกมัดใดๆ ต่อสิ่งที่จักมีอิทธิพล
       ต่อหน้าที่ของส่วนรวม
   ๓. ความปราศจากอคติ (Objectivity) คือ การกระทำใดๆ เช่น การแต่งตั้งผู้ร่วมงาน การจัดทำสัญญา
       ฯลฯ ให้วางอยู่บนคุณสมบัติที่ดีเลิศเท่านั้น
   ๔. ความสามารถตรวจสอบความรับผิดชอบ(Acountability) คือ การให้สังคมสามารถประเมิน
       ตรวจสอบความรับผิดชอบได้ และยอมรับต่อการตรวจสอบพิจารณานั้น
   ๕. ความเปิดเผย (Openness) คือ สามารถอธิบายเหตุผลการตัดสินใจของตนในกรณีต่างๆ ได้อย่าง
       เปิดเผย ในกรณีที่ต้องปกปิดข้อมูลนั้นกระทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวมของสาธารณะเท่านั้น
   ๖. ความมีสัมมาอาชีพ (Honesty) คือ การแสดงความชัดเจนของการได้มาซึ่งผลประโยชน์ส่วนบุคคล
       แก้ไขและลดความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นระหว่างทำงานตามหน้าที่และผลประโยชน์ส่วนบุคคล และช่วย
       ปกป้องผลประโยชน์ส่วนรวม
   ๗. ความเป็นผู้นำ (Leadership) คือ ปฏิบัติตนในฐานะผู้นำมุ่งส่งเสริมหลักการคุณธรรม และกระทำตน
       เป็นแบบอย่างที่ดี
  หลักคุณธรรมตามหลักการสากลได้ถูกอ้างถึงครั้งแรกในรายงานของธนาคารโลกเมื่อปี ค.ศ. ๑๙๘๙ ได้กล่าว
   ถึงความสำคัญของการมีธรรมาภิบาลว่าเป็นลักษณะและวิถีทางของการใช้อำนาจในการใช้ทรัพยากร
   ทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งครอบคลุมการมีส่วนร่วมของภาคส่วน
   ต่างๆ และกองทุนการเงินระหว่างประเทศได้ทำการศึกษาและวิเคราะห์การให้ประเทศต่างๆ กู้เงินเพื่อฟื้นฟู
   เศรษฐกิจพบว่าการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี (Good  Governance) เป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่ง
   ที่นำไปสู่ความสำเร็จในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ
  สำหรับการบริหารราชการของประเทศไทยตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี (Good  Governance)
   พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. ๒๕๔๖ ได้บัญญัติเกี่ยวกับ
   วิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีโดยมีเป้าหมายเพื่อเกิดประโยชน์สุขของประชาชน เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อ
   ภารกิจของรัฐ มีประสิทธิภาพและเกิดความคุ้มค่าในเชิงภารกิจของรัฐ ไม่มีขั้นตอนการปฏิบัติงาน
   เกินความจำเป็น มีการปรับปรุงภารกิจของส่วนราชการให้ทันต่อเหตุการณ์ ประชาชนได้รับการอำนวย
   ความสะดวกและได้รับการตอบสนองความต้องการ และมีการประเมินผลการปฏิบัติราชการอย่างสม่ำเสมอ
  หลักธรรมาภิบาลมีหลักการที่สำคัญ ๖ ประการ คือ
   ๑. หลักนิติธรรม (Rule of law) คือการปกครองโดยยึดหลักกฎหมาย เพื่อให้ความคุ้มครองแก่ประชาชน
       ทั้งในเรื่องสิทธิเสรีภาพในทรัพย์สิน การแสดงออก การดำรงชีพ เป็นต้น ซึ่งถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน
       ทั้งมวลของปัจเจกบุคคล และโดยหลักการนี้ผู้ปกครองไม่สามารถใช้อำนาจใดๆ อันละเมิดต่อกฎหมาย
       กระทำต่อประชาชนได้
   ๒. หลักคุณธรรม (Virtues) คือการยึดมั่นในเรื่องความถูกต้องดีงาม การส่งเสริมให้มีจริยธรรม
       และคุณธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งในทางการเมืองที่ขาดจริยธรรมและคุณธรรม
   ๓. หลักความโปร่งใส (Transparency) คือการปรับปรุงกลไกการทำงานขององค์การให้มีความโปร่งใส
       เปิดเผยข้อมูลข่าวสาร และมีกระบวนการให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและตรวจสอบความถูกต้องได้
   ๔. หลักการมีส่วนร่วม (Participation) คือการเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมรับรู้และเสนอความเห็น
       ต่อการตัดสินใจในองค์การ คุ้มครองสิทธิในการมีส่วนร่วมกับรัฐ และการเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของ
       ภาคประชาชน
   ๕. หลักความรับผิดชอบ (Acountability) คือการสำนึกในความรับผิดชอบต่อสาธารณะและเคารพ
       ความคิดเห็นที่แตกต่าง
   ๖. หลักความคุ้มค่า (Effectiveness) คือการบริหารจัดการและใช้ทรัพยากรที่มีจำกัดให้เกิดประโยชน์
       สูงสุดแก่ส่วนรวม

วันพฤหัสบดีที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2555

Test บล็อกแรกในชีวิต เรื่อง การประกันตัว


การขอประกันตัวผู้ต้องหาหรือจำเลยต่อศาล
v การประกันตัวคือ  การขอให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาชั่วคราวระหว่างการสอบสวนหรือขอให้ปล่อยตัว
จำเลยชั่วคราวในระหว่างการพิจารณาคดีของศาล การอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวเป็นดุลพินิจขอผู้พิพากษา
v ผู้มีสิทธิยื่นขอประกันตัว
1.       ผู้ต้องหาหรือจำเลย
2.       ผู้มีประโยชน์เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาหรือจำเลย  เช่น บุพการี ผู้สืบสันดาน สามีภริยา ญาติพี่น้อง
ผู้บังคับบัญชา นายจ้าง บุคคลที่เกี่ยวพันโดยทางสมรส บุคคลที่ศาลเห็นว่ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดเสมือนเป็นญาติ
พี่น้อง หรือมีความสัมพันธ์ในทางอื่นที่ศาลเห็นสมควรหรือนิติบุคคล เช่น บริษัท ห้างหุ้นส่วนจำกัด สำหรับกรณีผู้ต้องหาหรือจำเลยเป็นกรรมการ ผู้แทน ตัวแทน หุ้นส่วน พนักงาน หรือ ลูกจ้างของนิติบุคคลนั้นเป็นต้น
v หลักฐานที่ต้องใช้ในการประกันตัวผู้ต้องหา หรือ จำเลย
1.       บัตรประจำตัวประชาชน บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือบัตรประจำตัวพนักงานรัฐวิสาหกิจ
ของผู้ร้องขอประกัน อย่างใดอย่างหนึ่งและบัตรประจำตัวของผู้ต้องหาหรือจำเลย พร้อมสำเนาอย่างละ 1 ฉบับ
2.       ทะเบียนบ้านของผู้ร้องขอประกันตัว และของจำเลย สำเนาอย่างละ 1 ฉบับ
3.       ในกรณีผู้ร้องขอประกันมีคู่สมรสจะต้องแสดงเอกสารเพิ่มเติม ได้แก่
3.1               บัตรประจำตัวประชาชน บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือบัตรประจำตัวพนักงาน
รัฐวิสาหกิจ อย่างใดอย่างหนึ่ง และทะเบียนบ้านของคู่สมรส
3.2               ใบสำคัญการสมรส
3.3               หนังสือให้ความยินยอมของคู่สมรสถ้าคู่สมรสเสียชีวิต หรือ หย่า จะต้องมีใบมรณะบัตร
หรือใบหย่ามาแสดงด้วยพร้อมสำเนา 1 ฉบับ
          กรณีชื่อเจ้าของหลักทรัพย์ไม่ตรงกับที่ปรากฏในเอกสารแสดงสิทธิ์ในหลักทรัพย์ ต้องมีหนังสือรับรองว่าเป็นบุคคลคนเดียวกัน หรือหลักฐานการเปลี่ยนชื่อหรือชื่อสกุล
          ภาพถ่านหรือแผนที่หลักทรัพย์
          กรณีผู้ต้องหาหรือจำเลยเป็นชาวต่างประเทศหากมีหนังสือเดินทาง(passport() ต้องนำมาแสดงด้วย
ข้อสังเกต  ในวันยื่นคำร้องขอให้ปล่อยชั่วคราว หากเอกสารที่ต้องนำมานั้นไม่ครบถ้วน ผู้ร้องขอประกันอาจขอผัดผ่อนนำมาส่งศาลในภายหลังซึ่งศาลมีอำนาจพิจารณาอนุญาตให้ผัดผ่อนได้ตามที่เห็นสมควร
v หลักทรัพย์ที่ใช้เป็นประกัน
1.       เงินสด
2.       หลักทรัพย์อื่น เช่น
2.1   ที่ดินมีโฉนดหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 , น.ส.3ก ) กรรมสิทธิ์ห้องชุด
2.2   พันธบัตรรัฐบาล สลากออมสิน บัตรหรือสลากออมทรัพย์ทวีสินของธนาคารเพื่อการเกษตรและ
สหกรณ์การเกษตร ตั๋วแลกเงินที่ธนาคารเป็นผู้จ่าย และ ธนาคารผู้จ่ายได้รับรองตลอดไปแล้วตั๋วสัญญาใช้เงินที่ธนาคารเป็นผู้ออกตั๋ว หรือเช็คที่ธนาคารเป็นผู้สั่งจ่าย (แคชเชียร์เช็ค)หรือเช็คที่ธนาคารรับรองแล้ว
2.3   เงินฝากธนาคาร
2.4   หนังสือค้ำประกันหรือหนังสือรับรองของธนาคาร
2.5   หนังสือรับรองของบริษัทประกันภัย
v บุคคลเป็นประกันหรือหลักประกัน
1.       ส่วนราชการ กรณีข้าราชการหรือลูกจ้างของทางราชการที่ต้องหาคดีอาญาตามระเบียบ
กระทรวงการคลัง ว่าด้วยการช่วยเหลือข้าราชการหรือลูกจ้างของทางราชการที่ต้องหาคดีอาญา
2.       ผู้มีตำแหน่งข้าราชการ ข้าราชการบำนาญ สมาชิกรัฐสภา  ผู้บริหารราชการส่วนท้องถิ่น 
สมาชิกสภาท้องถิ่น พนักงานองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น พนักงานรัฐวิสาหกิจ พนักงานของรัฐประเภทอื่นๆ  ลูกจ้างของทางราชการหรือรัฐวิสาหกิจ ผู้บริหารพรรคการเมือง และทนายความ ทั้งนี้ บุคคลดังกล่าวต้องเป็นผู้มีความสัมพันธ์กับผู้ต้องหาหรือจำเลย เช่น เป็นบุพการี  ผู้สืบสันดาน สามี ภริยา ญาติพี่น้อง ผู้บังคับบัญชา นายจ้าง บุคคลที่เกี่ยวพันโดยทางสมรสหรือบุคคลที่ศาลเห็นว่ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดเสมือนเป็นญาติพี่น้องหรือมีความสัมพันธ์ในทางอื่นที่ศาลเห็นสมควร โดยสามารถทำสัญญาประกันได้ในวงเงินไม่เกิน 10 เท่าของอัตราเงินเดือนหรือรายได้เฉลี่ยต่อเดือน
3.       ผู้ประกอบวิชาชีพ เช่น แพทย์ เภสัชกร พยาบาล วิศวกร สถาปนิก ทนายความ ผู้สอบบัญชี
ครู ผู้ประกอบวิชาชีพด้านสื่อสารมวลชน หรือผู้ประกอบวิชาชีพอื่นตามที่ศาลเห็นสมควร เมื่อตกเป็นผู้ต้องหาหรือจำเลย อาจใช้ตนเองเป็นหลักประกันได้ในกรณีความผิดที่ตนถูกกล่าวหาเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่หรือการปฏิบัติงานในการประกอบวิชาชีพ โดยสามารถทำสัญญาประกันได้ในวงเงินไม่เกิน 15 เท่าของอัตราเงินเดือนหรือรายได้เฉลี่ยต่อเดือน
หมายเหตุ
1.       ในกรณีวางสมุดฝากเงินประจำของธนาคารจะต้องนำหนังสือรับรองยอดเงินคงเหลือปัจจุบัน
ของธนาคารมาแสดงด้วย
2.       กรณีใช้ที่ดินมีโฉนด น.ส.3 หรือ น.ส.3ก หรือกรรมสิทธิ์ห้องชุดมาเป็นหลักทรัพย์ ต้องมี
หนังสือรับรองประเมินราคาที่ดินจากสำนักงานที่ดินจังหวัดหรือจากที่ว่าการอำเภอหรือเขตในที่ที่ดินตั้งอยู่ แล้วแต่กรณีซึ่งออกให้ภายในระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน รับรองโดยเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด หรือ ผู้ปฏิบัติราชการแทน หรือ ผู้ทำการแทน กรณีรับรองโดยสำนักงานที่ดินอำเภอ ผู้รับรองราคาประเมินจะต้องเป็นนายอำเภอหรือผู้อำนวยการเขตหรือปลัดอำเภอผู้ทำการแทนหรือเจ้าหน้าที่บริหารงานที่ดินอำเภอ
3.       ในกรณีที่ผู้เป็นเจ้าของหลักทรัพย์ ต้องการมอบอำนาจให้ผู้อื่น (ญาติ) นำหลักฐาน
มาประกันตน ใบมอบอำนาจจะต้องทำ ณ ที่ว่าการอำเภอซึ่งทรัพย์นั้นตั้งอยู่ โดยมีนายอำเภอหรือพนักงานฝ่ายปกครองลงลายมือชื่อผู้รับรองและประทับตราเป็นสำคัญด้วย
v ขั้นตอนในการยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว
1.       ผู้ที่จะขอประกันให้แสดงความจำนงในการขอประกันตัวจำเลยต่อเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของศาล
และพร้อมกับยื่นหลักทรัพย์พร้อมหลักฐานที่จำเป็นในการขอประกันตัว
2.       เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ตรวจความเรียบร้อยและครบถ้วนของเอกสารทั้งหมดและเสนอคำร้อง
ต่อศาลเพื่อพิจารณาสั่ง
3.       เมื่อศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวแล้วผู้ประกันสามารถรับตัวจำเลยไปจากศาลได้ทันที
แต่ต้องนำตัวจำเลยมาส่งศาลตามที่ศาลนัดทุกครั้ง โดยเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์จะให้ใบนัดพร้อมระบุวันที่ที่จะต้องมาศาล มอบให้กับผู้ประกันและจำเลยไป ในกรณีที่จำเลยถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรี ทางศาลจะออกหมายปล่อยให้ผู้ประกันหรือเจ้าหน้าที่เรือนจำฯ ผู้ประกันจะต้องไปรับตัวจำเลยที่เรือนจำฯ หากศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว (ไม่อนุญาตให้ประกันตัว) ผู้ขอประกันมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาลไดะชาสัมพันธ์จะให้ใบนัดพร้อมระบุวันที่ที่จะต้องมาศาล มอบให้กับผู้ประกันและจำเลยไป ในกรณีที่จำเลยถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรี ทางศาลจะออกหมายปล่อยให้ผู้ประกันหรือเจ้าหน้าที่เรือนจำฯ ผู้ประกันจะต้องไปรับตัวจำเลยที่เรือนจำฯ หากศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว (ไม่อนุญาตให้ประกันตัว) ผู้ขอประกันมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาลได้ภายใน 1 เดือน นับแต่วันที่ศาลมีคำสั่ง คำสั่งศาลอุทธรณ์ให้เป็นที่สุด แต่ไม่ตัดสิทธิ์ผู้ขอประกันที่จะยื่นคำร้องใหม่
v หลักเกณฑ์ในการสั่งคำร้องขอปล่อยชั่วคราว
          เมื่อยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวแล้ว ศาลจะพิจารณาเรื่องเหล่านี้ประกอบในการพิจารณาสั่งคำร้อง คือ
1.       ความหนักเบาแห่งข้อหา
2.       พยานหลักฐานที่นำสืบแล้วมีเพียงใด
3.       พฤติการณ์ต่างๆแห่งคดี
4.       ความน่าเชื่อถือของผู้ร้องขอประกันหรือหลักประกัน
5.       ผู้ต้องหาหรือจำเลยน่าจะหลบหนีหรือไม่
6.       คำคัดค้านของพนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการ
การมอบฉันทะให้ส่งตัวจำเลย
ในกรณีที่ศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวหรือประกันตัว ผู้ประกันมีหน้าที่ต้องส่งตัวจำเลยต่อศาลตามกำหนดนัดของศาลทุกครั้ง แต่หากผู้ประกันไม่สามารถมาศาลได้ด้วยตนเอง ผู้ประกันต้องมอบฉันทะให้บุคคลอื่นส่งตัวจำเลยต่อศาลแทน (โดยขอแบบใบมอบฉันทะได้ที่เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ พร้อมติดอากรแสตมป์ 30 บาท )

v กรณีศาลสั่งปรับนายประกัน
          ศาลจะสั่งปรับผู้ประกันในกรณีที่ผิดสัญญาประกันต่อศาล เช่น ไม่นำตัวจำเลยมาส่งศาลตามกำหนดนัดเป็นต้น ผู้ประกันจะต้องนำเงินค่าปรับมาชำระต่อศาลภายในระยะเวลาที่ศาลกำหนด มิฉะนั้นศาลจะสั่งยึดหลักประกันขายทอดตลาดเพื่อนำเงินมาชำระค่าปรับ ถ้าได้เงินไม่พอชำระค่าปรับศาลอาจยึดทรัพย์สินอื่นๆ ของ  ผู้ประกันมาขายทอดตลาดเพื่อชำระค่าปรับจนครบ ผู้ประกันที่ศาลสั่งปรับตามสัญญาประกันมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งได้ภายในกำหนด 1 เดือน นับแต่วันที่ศาลมีคำสั่ง หรืออาจนำตัวจำเลยมาส่งศาลและขอลดค่าปรับต่อศาล   ได้โดยแสดงเหตุที่ไม่สามารถส่งตัวจำเลยตามกำหนดที่ศาลนัดได้